น้องน้ำตาล มีก้อนเนื้อสีแดง และมีเลือดไหลออกจากช่องคลอด

น้องน้ำตาล เป็นสุนัขเพศเมีย อายุ 3 ปี ทำหมันไปประมาณ 2-3 เดือนที่แล้ว ร่างกายแข็งแรงดี เข้ามาที่โรงพยาบาลสัตว์ไอเว็ทด้วยอาการมีเลือดออกจากอวัยวะเพศ สัตวแพทย์ทำการตรวจร่างกายพบว่ามีก้อนเนื้อสีแดงขนาด 2x2 ซ.ม. อยู่ที่บริเวณช่องคลอด มีเลือดไหลซิบๆตลอดเวลา สัตวแพทย์ทำการเก็บตัวอย่างเซลล์จากก้อนเนื้อส่งตรวจทางเซลล์วิทยา ผลตรวจพบว่าเป็นโรคเนื้องอกติดต่อบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ (Canine Transmissible Venereal Tumor หรือ Canine Transmissible Venereal Granuloma) จึงได้วางแผนการรักษาโดยการใช้เคมีบำบัด (Chemotherapy) ผลการตอบสนองของการรักษาด้วยเคมีบำบัดเป็นไปได้ดี น้องน้ำตาลเกิดภาวะแทรกซ้อนบ้างระหว่างการรักษาด้วยเคมีบำบัด เช่น มีเม็ดเลือดขาวต่ำลง, พบภาวะอาเจียน  และได้รับการรักษาภาวะแทรกซ้อนต่างๆตามอาการที่พบ  อาการเลือดออกได้หายไปหลังทำการเริ่มรักษาด้วยเคมีบำบัดประมาณ 1 สัปดาห์  ขนาดก้อนเนื้อค่อยๆมีขนาดเล็กลง  ใช้ระยะเวลาในการทำเคมีบำบัดทั้งสิ้น  7 สัปดาห์ จนกระทั่งก้อนเนื้องอกมีขนาดเล็กเพียงพอที่สามารถทำการผ่าตัดเอาส่วนที่เหลือออกทั้งหมดได้ หลังจากนั้นน้องน้ำตาลจึงได้ถูกส่งไปแผนกศัลยกรรมต่อ เพื่อผ่าตัดก้อนเนื้องอกส่วนที่เหลือออก หลังทำการผ่าตัดไปประมาณ 2 สัปดาห์ น้องน้ำตาลกลับมาเพื่อติดตามอาการ ยังไม่พบการกลับมาเป็นซ้ำของเนื้องอกชนิดนี้ และไม่พบอาการเลือดออกจากอวัยวะเพศอีกเลย

     


     



โรคเนื้องอกติดต่อบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ (Canine Transmissible Venereal Tumor  หรือ Canine Transmissible Venereal Granuloma)
โรคนี้เป็นโรคในกลุ่มเนื้องอกที่มักเป็นที่อวัยวะสืบพันธุ์ พบเฉพาะในสุนัขเท่านั้น  สุนัขทุกเพศและทุกสายพันธุ์สามารถเป็นโรคนี้ได้  โรคนี้สามารถติดต่อผ่านกันได้จากการผสมพันธุ์ และอาจติดต่อไปยังอวัยวะอื่นๆได้ด้วย เช่น ผิวหนัง โพรงจมูก ในช่องปาก จากการสัมผัสกัน การกัดกัน การข่วนกัน การเลียและการสูดดม 

อาการที่พบ

ระยะแรกจะพบเป็นก้อนเนื้องอกขนาดเล็ก อาจพบเป็นก้อนเดี่ยวหรือเป็นกระจุก รูปร่างคล้ายดอกกะหล่ำ (cauliflower-like) หลังจากนั้นก้อนเนื้องอกจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เริ่มพบว่ามีเลือดไหลจากช่องคลอดหรือจากปลายอวัยวะเพศผู้  สามารถพบอาการปัสสาวะติดขัดหรือปัสสาวะไม่ออกหรือปัสสาวะเป็นเลือดได้ เมื่อก้อนเนื้อขยายขนาดใหญ่มากจะพบก้อนเนื้องอกโผล่ยื่นออกมากจากปลายของอวัยวะเพศผู้หรือเมีย  ในรายที่เกิดที่โพรงจมูกมักจะมีอาการเลือดกำเดาออกหรือพบก้อนตามจมูก ในรายที่เกิดในช่องปากอาจพบก้อนในลักษณะคล้ายๆกันในช่องปากและมีเลือดออก ส่วนกรณีที่ผิวหนังอาจพบเป็นตุ่มนูนกระจายตามผิวหนัง

การวินิจฉัย
การยืนยันโรคนี้ที่แน่นอนคือ การตรวจทางจุลพยาธิวิทยา และการตรวจทางเซลล์วิทยา

การรักษา

วิธีรักษาทีมีประสิทธิภาพที่ดีที่สุดคือการรักษาโดยการใช้เคมีบำบัด ส่วนการรักษาอื่นๆนอกจากเคมีบำบัด ได้แก่ การฉายรังสีรักษา การศัลยกรรม  การใช้อิมมูโนบำบัด   ในแต่ละวิธีจะมีประสิทธิภาพในการรักษาที่แตกต่างกัน  ซึ่งการเลือกวิธีการรักษาจำเป็นต้องคำนึงถึงความสะดวก สภาพความพร้อมและความปลอดภัยต่อตัวสัตว์ ผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้น รวมไปถึงค่าใช้จ่ายต่างๆในการรักษา