9105 Views |
เมื่อสัตวแพทย์ ทำการตรวจร่างกายน้องจ๋อพบว่า มีก้อนขนาดใหญ่อยู่ข้างก้นจนถึงต้นขาด้านขวา ลักษณะค่อนข้างแข็ง สุนัขเจ็บมากเมื่อจับ นอกจากนี้ยังพบว่าเมื่อกดที่ก้อนเนื้อนี้ จะสามารถยุบกลับเข้าไปในร่างกายได้ เมื่อมีอาการเบ่งก้อนนี้ก็ใหญ่ขึ้นชัด ร่วมกับน้องจ๋อมีอาการปวดท้อง หลังจากตรวจร่างกายภายนอกแล้ว สัตวแพทย์ได้ทำการตรวจภายในต่อ โดยล้วงตรวจผ่านทางทวารหนัก พบว่าต่อมลูกหมากมีขนาดใหญ่กว่าปกติ ลำไส้ใหญ่ส่วนท้ายมีการขยายขนาดลักษณะคล้ายถุง มีอุจจาระไปสะสมปริมาณมาก ซึ่งต่อมลูกหมากที่ใหญ่นี้จะมีผลไปเบียดทางเดินอาหารส่วนท้าย ทำให้น้องจ๋อแสดงอาการเบ่งถ่ายอุจจาระ เพื่อให้อุจจาระไหลออกมา แต่อุจจาระก็ไปถูกเก็บอยู่ในถุงที่เกิดจากการที่ลำไส้ขยายตัว ไม่สามารถออกมาทางก้นปกติได้ มีผลทำให้ผนังช่องท้องและกล้ามเนื้อบริเวณนั้นเกิดการฉีกขาด ทำให้ลำไส้ใหญ่ส่วนปลายที่เป็นถุงสะสมอุจจาระ ออกมาอยู่นอกช่องท้อง เจ้าของจึงเห็นเป็นก้อนเนื้อขนาดใหญ่บริเวณสะโพก ใกล้ๆก้นนั่นเอง จึงสรุปได้ว่าน้องจ๋อมีภาวะ ต่อมลูกหมากโต และไส้เลื่อน การแก้ปัญหานี้ คือการผ่าตัดทำหมัน เพื่อลดฮอร์โมนเพศ ช่วยให้ขนาดต่อมลูกหมากค่อยๆลดลงจนเป็นปกติ ร่วมกับการผ่าตัดแก้ไขไส้เลื่อน
สำหรับการเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด สัตวแพทย์ได้ทำการตรวจเลือดและเอ็กซเรย์เพิ่มเติม เพื่อประเมินสุขภาพ ซึ่งผลการตรวจพบว่าค่าเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ และจากการเอ็กซเรย์พบว่า มีแค่ลำไส้ใหญ่เท่านั้นที่เคลื่อนออกจากตำแหน่งปกติมาอยู่นอกช่องท้อง สัตวแพทย์ได้ทำการรักษาเบื้องต้นโดยการ ให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำ ให้ยาลดปวด ลดอักเสบ ยาปฏิชีวนะ และทำการล้วงเอาอุจจาระบางส่วนออกมาก่อน เพื่อลดแรงเบ่ง และเป็นการปรับสภาพของน้องจ๋อเตรียมตัวก่อนผ่าตัดในวันถัดไป
ในส่วนของการผ่าตัด สัตวแพทย์ดำเนินการผ่าตัดทำหมัน และผ่าตัดเปิดเข้าไปสำรวจข้างในช่องท้องตรงตำแหน่งที่นูนผิดปกติเพื่อแก้ไขปัญหาไส้เลื่อน จัดการดันลำไส้กลับไปในช่องท้อง เย็บปิดผนังช่องท้องและกล้ามเนื้อที่ฉีกขาดให้กลับมาเป็นปกติ การผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และส่งต่อน้องจ๋อไปพักฟื้นที่หน่วยสัตว์ป่วยวิกฤติต่อ ซึ่งระหว่างการพักฟื้น จะมีสัตวแพทย์เฝ้าดูอาการน้องจ๋อตลอดเวลา น้องจ๋อฟื้นตัวหลังผ่าตัดค่อนข้างดี และอยู่แอดมิดเพื่อดูแลแผลผ่าตัด ให้ยาและติดตามอาการเรื่องการขับถ่ายจนกระทั่งตัดไหม และไม่พบปัญหาเบ่งถ่าย จึงสามารถกลับบ้านได้ โดยที่การดูแลเมื่ออยู่ที่บ้านนั้น สัตวแพทย์แนะนำให้ น้องจ๋อกินเฉพาะอาหารเปียก งดขนมหรืออาหารเม็ด เพื่อให้อุจจาระเป็นก้อนนิ่ม ลดอาการเบ่งถ่าย ร่วมกับการป้อนฮอร์โมนลดขนาดของต่อมลูกหมากต่อเนื่อง หลังจากทำหมันครบ 1 เดือน สัตวแพทย์นัดน้องจ๋อเข้ามาตรวจอัลตร้าซาวด์ดูขนาดของต่อมลูกหมาก ผลการตรวจพบว่าขนาดต่อมลูกหมากและอวัยวะอื่นๆในช่องท้องเป็นปกติแล้ว จึงสามารถหยุดฮอร์โมนได้ แต่ยังคงแนะนำให้กินอาหารเปียกไปอีกระยะหนึ่ง
เกร็ดความรู้เพิ่มเติม
โรคต่อมลูกหมากโต มักพบในสุนัขที่ยังไม่ได้ทำหมัน และจะพบความเสี่ยงเพิ่มขึ้นตามอายุเช่นเดียวกับในคน นั่นคือ หากสุนัขอายุมากกว่า 5 ปี พบได้มากกว่าร้อยละ 80 ส่วนสุนัขอายุ 9 ปีขึ้นไปจะพบปัญหาต่อมลูกหมากโตได้มากกว่าร้อยละ 95 ดังนั้นหากเจ้าของไม่อยากให้สุนัขมีลูก แนะนำผ่าตัดทำหมัน ไม่ควรรอจนสุนัขอายุเยอะ เพื่อลดปัญหาการเกิดต่อมลูกหมากโต
อาการที่พบเมื่อสุนัขมีภาวะต่อมลูกหมากโต ได้แก่ ปัสสาวะกะปริบกะปรอย ปัสสาวะลำบาก เนื่องจากต่อมลูกหมากที่มีขนาดใหญ่ จะมีผลทำให้ทางเดินปัสสาวะตีบแคบ มีอาการปวดเวลาปัสสาวะ และทำให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบและติดเชื้อตามมาได้ นอกจากนี้ ต่อมลูกหมากที่ขนาดใหญ่ยังไปเบียดทางเดินอาหารส่วนท้ายมีผลทำให้เกิดการเบ่งถ่ายอุจจาระ หากเป็นเรื้อรังหรือรุนแรง อาจทำให้เกิดภาวะไส้เลื่อนตามมาได้
การรักษาโรคต่อมลูกหมากโตด้วยวิธีอื่นนอกจากการผ่าตัด คือใช้ยากลุ่มฮอร์โมนเพื่อช่วยลดขนาดต่อมลูกหมาก แต่การรักษาทางยาจะได้ผลช้า และต้องกินยาเพื่อควบคุมขนาดของต่อมลูกหมากไปตลอด เมื่อหยุดกิน ต่อมลูกหมากสามารถกลับมาขนาดใหญ่แบบเดิมได้ ดังนั้น ในสุนัขเพศผู้ที่ไม่ต้องการเป็นพ่อพันธุ์ แนะนำทำหมันแบบตัดอัณฑะออก เนื่องจากอัณฑะเป็นแหล่งในการผลิตฮอร์โมนเพศ ภายหลังการทำหมัน ฮอร์โมนในร่างกายลดลง ขนาดของต่อมลูกหมากก็จะลดลงเช่นกัน
การดูแลสุนัขหลังการผ่าตัด
ดูแลสุนัขอย่างใกล้ชิด จำกัดบริเวณสุนัข ห้ามกระโดดหรือวิ่งเล่นมากเกินไป เพราะจะกระทบกระเทือนแผลได้
ใส่ Elizabeth Collar หรือลำโพง ตลอดเวลา เพื่อป้องกันสุนัขเลียแผล ซึ่งจะส่งผลทำให้แผลสกปรก และมีการติดเชื้อตามมาได้
ป้อนยาตามที่สัตวแพทย์กำหนดอย่างตรงเวลาสม่ำเสมอ นอกจากจะทำให้แผลหายเร็วแล้ว ยังป้องกันการติดเชื้อแทรกซ้อนตามมาได้
พาน้องสุนัขมาพบสัตวแพทย์ตามนัดสม่ำเสมอ เพื่อประเมินการรักษาได้อย่างถูกต้อง
สัตวแพทย์ผู้ทำการรักษาและผ่าตัด
สพ.ญ.สายพิณ อยู่ต้น