“ สุนัขก็แพ้อาหารได้เหมือนกัน”

10175 จำนวนผู้เข้าชม  | 

 “ สุนัขก็แพ้อาหารได้เหมือนกัน”


ชื่อ: กีกี้  ชนิด: สุนัข อายุ: 7 ปี พันธุ์: Labrador Retriever

ประวัติและการรักษา

                น้องกีกี้ มีปัญหาผิวหนังเป็นประจำ ตั้งแต่อายุ 1 ปี มีอาการคัน ขนร่วง มีการติดเชื้อแบคทีเรีย และยีสต์แทรกซ้อนอยู่เรื่อยๆ ต้องกินยาปฏิชีวนะและยาฆ่าเชื้อราคุมการติดเชื้ออยู่เป็นประจำ แต่อาการคันก็ไม่เคยหายไป  

การตรวจร่างกาย

พบขนหลุดร่วงเป็นวงกว้างโดยที่ใต้คอ เท้า ขาหนีบ ผิวหนังหนาตัวและเปลี่ยนสีเป็นสีดำ และล่าสุดเริ่มมีแผลที่เท้าทั้ง 4 ข้าง น้องแทะและเลียเท้าตลอด จนขนร่วง และมีลักษณะคล้ายฝีเกิดขึ้น  นอกจากนี้รอบรูทวารก็มีขนร่วงเป็นวงกว้าง ในเบื้องต้นคุณหมอทำการตรวจผิวหนัง ไม่พบไรขี้เรื้อน แต่พบเชื้อแบคทีเรียเป็นจำนวนมาก

แนวทางการรักษาเบื้องต้น

คุณหมอ จึงทำการรักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ และกลุ่มยาแก้แพ้เพื่อบรรเทาอาการคัน  ร่วมกับการทำแผลโดยการระบายหนองออกจากก้อนฝีที่เท้า โดยให้น้องกีกี้ใส่ลำโพง  ไว้ตลอดเวลาเพื่อกันไม่ให้แทะเลียเท้า

การติดตามอาการซ้ำและวินิจฉัยเพิ่มเติม

ผ่านไป 1 เดือน อาการไม่ดีขึ้น ยังคงคันมากเช่นเดิม คุณหมอสงสัยว่าน้องกีกี้น่าจะมีปัญหาผิวหนังบางอย่างโน้มนำทำให้น้องกีกี้ยังคงไม่หายจากอาการคัน  คุณหมอจึงชี้แจงกับเจ้าว่าควรหาสาเหตุโน้มนำเหล่านั้นต่อ โดยพิจารณาตรวจผิวหนังขั้นต่อไปหลัก ๆ ของ 2 วิธีคือ ตรวจแยกระหว่างภูมิแพ้อาหารและสิ่งแวดล้อม

เจ้าของตัดสินใจตรวจเลือดเพื่อดูระดับภูมิคุ้มกันดูปัญหาภูมิแพ้สิ่งแวดล้อม และพร้อมกันนั้นตรวจวินิจฉัยเรื่องภูมิแพ้อาหารด้วยวิธีการทำ Food trial โดยให้ทานแต่อาหารรักษาโรคภูมิแพ้อาหารเท่านั้น สำหรับตรวจสอบภูมิแพ้อาหารเป็นเวลา 1 เดือน โดยหยุดยาปฏิชีวนะ ยาสเตียรอยด์ ยาแก้แพ้ต่างๆ คงเหลือแค่ยาบำรุงตับ และยาบำรุงขนเท่านั้น พบว่าภายใน 2 สัปดาห์หลังจากที่ปรับอาหาร อาการคันดีขึ้นมาก แผลที่เท้าเริ่มแห้ง และในระยะ 1 เดือน ขนกลับขึ้นมาเป็นปกติ จึงสรุปว่าน้องมีภาวะภูมิแพ้ต่อโปรตีนบางชนิดในอาหาร ซึ่งต้องทำการตรวจสอบต่อไปว่าแพ้โปรตีนจากสัตว์ชนิดใดบ้าง และผลตรวจภูมิแพ้ต่อสิ่งแวดล้อม พบภูมิคุ้มกันต่อไรฝุ่นขึ้นสูง เจ้าของจึงต้องรักษาความสะอาดของที่อยู่อาศัยให้เรียบร้อยอยู่เสมอ


คำแนะนำเพิ่มเติม

อาการภูมิแพ้ผิวหนังที่เกิดจากสิ่งแวดล้อมจะตอบสนองต่อการใช้ยาสเตียรอยด์ ช่วยลดการอักเสบและบรรเทา อาการคันให้ทุเลาลง แต่กลับมีผลข้างเคียงคือกระตุ้นการทำงานของตับอย่างหนักหน่วง  หากใช้ติดต่อกันในขนาดที่สูง ทำให้การทำงานของตับรวมถึงฮอร์โมนอื่น ๆ ในร่างกายแปรปรวนได้

                สุนัขที่มีอาการคันอย่างต่อเนื่อง อาจมีสาเหตุได้ตั้งแต่ปรสิตภายนอก การติดเชื้อแบคทีเรีย ยีสต์หรือเชื้อรา รวมไปถึงภาวะภูมิคุ้มกันไวเกินต่ออาหาร และภาวะภูมิคุ้มกันไวเกินต่อสิ่งแวดล้อมที่สรุปสาเหตุได้ค่อนข้างยากและใช้การตรวจขั้นสูงและใช้เวลาในการวินิจฉัยแยกหลายสัปดาห์ จึงควรหมั่นป้องกันปรสิตภายนอก ได้แก่ การอาบน้ำ ใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันเห็บหมัดเป็นประจำ หากสุนัขแสดงอาการควรคันพามาพบสัตวแพทย์เพื่อวินิจฉัย และตัดสาเหตุออกทีละประเด็น การรักษาโรคผิวหนัง อาศัยระยะเวลาที่ค่อนข้างนาน ดังนั้นเจ้าของต้องมีวินัยในการพามาพบสัตวแพทย์อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงหากทำการตรวจสอบภูมิคุ้มกันไวเกินต่ออาหาร เจ้าของก็ต้องมีวินัยในการคุมการให้อาหารแก่สุนัขให้ได้ด้วยค่ะ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้