น้องเพชร สุนัขพันธ์ปอมเมอเรเนียน ริเวณรอบใบหูและช่องหูด้านในมีการสะสมของขี้หูปริมาณมาก มีกลิ่นอับ

น้องเพชร สุนัขพันธ์ปอมเมอเรเนียน อายุ 3 เดือน เจ้าของพาเข้ามารับวัคซีนตามกำหนด อาการทั่วไปปกติแข็งแรงดี กินอาหารปกติ ขับถ่ายเป็นก้อน เลี้ยงในบ้านตัวเดียว เจ้าของอาบน้ำให้เอง สัตวแพทย์ตรวจร่างกาย เสียงปอดและหัวใจปกติ ไม่มีไข้ ไม่พบน้ำมูกหรือขี้ตา แต่พบว่าบริเวณรอบใบหูและช่องหูด้านในมีการสะสมของขี้หูปริมาณมาก มีกลิ่นอับ ซึ่งเจ้าของก็สังเกตว่าน้องเพชรเคยมีอาการสะบัดหัวและเอาหน้าถูไถกับผ้าห่มอยู่บ้าง สัตวแพทย์จึงทำการเก็บตัวอย่างขี้หูไปป้ายบนสไลด์และย้อมสี ตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ พบว่ามีเชื้อยีสต์ (Malassezia) จำนวนเยอะมาก เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะช่องหูอักเสบ(Otitis externa) มีขี้หูปริมาณมากกว่าปกติ สุนัขจะรู้สึกคัน เจ็บ และไม่สบายหู จนทำให้มีพฤติกรรมสะบัดหัว เกาบริเวณหู หรือแม้กระทั้งเอาหน้าและหูไถกับเบาะหรือสิ่งปูรองเพื่อให้บรรเทาจากอาการคัน
แนวทางในการรักษา สามารถรักษาให้หายได้ โดยเริ่มจากการเช็ดทำความสะอาดใบหูและช่องหู ในขั้นตอนนี้ เจ้าของควรได้รับคำแนะนำและดูวิธีการเช็ดทำความสะอาดหูโดยตรงจากสัตวแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อที่จะได้ทำอย่างถูกวิธี สุนัขไม่เจ็บ และเพิ่มความสำเร็จในการรักษา ซึ่งจะใช้น้ำยาล้างหูสำหรับสัตว์เท่านั้นในการเช็ดทำความสะอาดช่องหู หลังจากเช็ดเอาคราบขี้หูออกหมดแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการใส่ยาหยอดหู ซึ่งสัตวแพทย์เป็นผู้จ่าย ยาหยอดหูจะมีส่วนประกอบของยาฆ่าเชื้อ และยาลดอักเสบ โดยสัตวแพทย์จะเลือกให้เหมาะสมกับเชื้อก่อโรคเป็นหลัก ส่วนมากแล้ว สัตวแพทย์จะแนะนำให้มีการเช็ดทำความสะอาดช่องหูวันละครั้ง และหยดยาหลังจากทำความสะอาดข่องหู ความถี่และปริมาณขึ้นกับความรุนแรง ใช้เวลาประมาณ 7-14 วัน (ยกเว้นในกรณีที่มีการติดเชื้อเรื้อรัง มีการติดเชื้อขั้นรุนแรง หรือมีการติดเชื้อมากกว่า 1 ชนิด สัตวแพทย์จะทำการเก็บตัวอย่างขี้หูส่งตรวจเพิ่มเติม รวมถึงมีการใช้ยาฆ่าเชื้อแบบกิน มาประกอบการรักษาร่วมด้วย)
คำแนะนำ
โดยทั่วไป แนะนำให้เช็ดทำความสะอาดหูให้สุนัขอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง หรือทุกครั้งหลังจากอาบน้ำ หากพบว่าขี้หูกลับมาเยอะเร็ว หรือมีกลิ่นผิดปกติ ร่วมกับพฤติกรรมของสุนัขที่มีอาการเกาคันและสะบัดหัว แนะนำให้พามาพบสัตวแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัย (ไม่ต้องเช็ดทำความสะอาดหูก่อนมาพบสัตวแพทย์ค่ะ)
สุนัขที่สะบัดหูบ่อยๆ มีโอกาสเกิดภาวะเส้นเลือดฝอยที่ใบหูแตก และมีภาวะเลือดคั่งในใบหู (aural hematoma) ได้
สุนัขที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อช่องหูได้ง่าย ส่วนใหญ่จากมีโครงสร้างหูที่พับตก มีขนเยอะ ซึ่งง่ายต่อการอับชื้นและเจริญเติบโตของเชื้อ รวมถึงสุนัขที่ชอบเล่นน้ำ หรือแช่น้ำบ่อยๆ เจ้าของต้องหมั่นเช็ดและซับหูให้แห้งเสมอ
ใส่ลำโพงกันเกาในระหว่างที่ทำการรักษา เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขเกาบริเวณหู ซึ่งจะส่งผลทำให้มีแผลบริเวณหลังใบหู หรือหน้าได้